ที่พักเรียนต่อต่างประเทศ
1. หอพักในมหาวิทยาลัย (Dormitory)
แต่ละมหาวิทยาลัย จะมีหอพักเป็นของตัวเอง ซึ่งแต่ละประเทศ ก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ถ้าเป็นฝั่งอเมริกา จะเรียกว่า Dormitory หรือเรียกสั้นๆว่า Dorm ส่วนฝั่งอังกฤษหรือออสเตรเลีย แต่ละหอพัก สามารถเรียกแตกต่างกันไปได้เลย ตัวอย่างเช่น Student Village, Student House, Halls of Resident โดยแต่ละหอ มักจะตั้งชื่อตามชื่อถนน หรือชื่อแคมปัส
ประเภทของห้องพัก
• Shared Bathroom หอพักแบบนี้ จะมีราคาย่อมเยาว์ที่สุด นักเรียนจะมีห้องนอนส่วนตัว แต่จะใช้ห้องน้ำร่วมกับเพื่อน
• En-Suite หอพักแบบนี้ เป็นห้องนอนส่วนตัว และมีห้องน้ำในห้อง แต่นักเรียนยังคงต้องใช้ facilities เช่นครัว หรือห้องนั่งเล่น ร่วมกับแฟลตเมทคนอื่นๆ
• Studio หอพักแบบนี้ น้องๆจะได้ห้องส่วนตัว ห้องน้ำ และมุมห้องนั่งเล่นและครัวเล็กอยู่ด้วยกัน หอพักประเภทนี้จะมีราคาสูงที่สุด เพราะทุกอย่างในห้อง เราไม่ต้องแชร์กับใคร
2. บ้านเช่า / Housing or Apartment
น้องๆที่มีเพื่อนไปด้วย บางคนอาจจะอยากหาบ้านแบ่งเช่า เพราะไม่อยากอยู่หอพักมหาวิทยาลัย ที่มีกฎข้อบังคับในการเข้าอยู่ค่อนข้างมาก เพราะมีนักเรียนอยู่ร่วมกันหลายชาติ บ้านเช่าในเมืองใหญ่ต่างๆ จะลงประกาศในเวบไซด์ เวบบล๊อคในการหาที่พักทั่วไป ทั้งนี้ข้อเสียของการอยู่บ้านเช่า คือการที่แฟลตเมทของเราอาจจะไม่ใช่นักเรียน เวลาเราอ่านหนังสือ เพื่อนๆอาจจะใช้เสียงดัง หรือกลับบ้านดึก เพราะทำงานกะดึก นักศึกษาบางคน ไปต่างประเทศแบบ working holiday visa หรือเป็น Gap year ก็จะมุ่งไปทำงานหาประสบการณ์เป็นหลัก
3. พักกับครอบครัว Homestay
การพักกับครอบครัว Homestay ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหับนักเรียนที่ไปเรียนภาษาอังกฤษ หรือเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน การพักกับครอบครัว ทำให้เราได้ฝึกภาษา และได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนพื้นที่ ทำให้เราปรับตัวได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้บ้าน Homestay สามารถพักได้ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป หากเราต้องการหาบ้านเช่า ในการพักระยะยาว เราสามารถไปดูสถานที่จริง ก่อนจะจอง โดยติดต่อกับ Housing Agent ในเมือง วิธีนี้จะช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้น ก่อนเซ็นสัญญาที่พักระยะยาวที่ไหน
น้องๆที่กำลังมองหาที่เรียนต่างประเทศ ถ้าตกลงปลงใจจะไปเมืองไหนแล้ว น้องๆสามารถหาข้อมูลเชิงลึก ของเมืองนั้นๆได้เลย การเตรียมข้อมูลล่วงหน้า ช่วยให้เราเลือกไม่ผิดนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดี